จากการทดสอบฤทธิ์เบื้องต้นของสารสกัดชาเมี่ยงในการต้านเชื้อ S. mutans และ Lactobacillus spp. (ตารางที่ 10 และ ภาพที่ 9) พบว่าสารสกัดด้วยเอทานอลมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ 80 % โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของวงใส (inhibition zone) อยู่ในช่วง 14.5- 11.1 mm และ 21.3-15.4 mm ตามลำดับ
หมายเหตุ - คือ ไม่มี Inhibition zone; ผลการทดลองแสดงข้อมูลค่า mean ± SD ซึ่งได้จากการทดลอง 3 ครั้ง และทดลองในแต่ละครั้ง 3 ซ้ำ
ปริมาณสารสกัดใบชาเมี่ยง 20 µL/disc (ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 มิลลิเมตร)
ชุดควบคุมผลลบใช้ (-)-Catechins
ชุดควบคุมผลบวกใช้ยาปฎิชีวนะ tetracycline ความเข้มข้น 30 µg/disc
ภาพที่ 59 การยับยั้งของแบคทีเรีย Streptococcus mutans ของสารสกัดใบชาเมี่ยง
1 = สารสกัดใบชาเมี่ยงพะเยา
2 = สารสกัดใบชาเมี่ยงเชียงราย
3 = สารสกัดใบชาเมี่ยงแม่ฮ่องสอน
4 = (-)-Catechins
5 = ชุดควบคุมผลบวกใช้ยาปฎิชีวนะ tetracycline
A, B, C= ทำการทดลอง 3 ซ้ำ กับแบคทีเรียทดสอบ Streptococcus mutans
2. การทดสอบหาค่า MIC และ MBC โดยวิธี broth microdilution
จากการทดสอบหาค่า MIC ของสารสกัดใบชาเมี่ยง (ตารางที่ 2) พบว่าสารสกัดใบชาเมี่ยงสามารถยับยั้งแบคทีเรียทดสอบ S. mutans และ Lactobacillus spp. โดยให้ค่า MIC อยู่ในช่วง 125-256 µg/mL สำหรับยาปฎิชีวนะ tetracycline มีค่า MIC เท่ากับ 0.015 µg/mL ตามลำดับ
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาสีฟันใบชาเมี่ยงและน้ำยาบ้วนปากใบชาเมี่ยง
ยาสีฟันใบชาเมี่ยง
คุณสมบัติทางกายภาพ: ครีมข้น สีเขียว กลิ่นหอม pH 6-7
น้ำยาบ้วนปากใบชาเมี่ยง
คุณสมบัติทางกายภาพ: สารละลายใส สีเขียวอ่อน กลิ่นหอม pH 6-7
ช่องปากของมนุษย์เป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์มากกว่า 750 ชนิด โดยมีสภาวะที่เหมาะสมจะสามารถเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วและก่อให้เกิดโรคในช่องปากได้ เช่น โรคปริทัศน์และโรคฟันผุ (Jenkinson and Lamont, 2005) โดยโรคฟันผุเป็นโรคติดเชื้อเรื้อรังที่มีสาเหตุหลักจากแบคทีเรีย แบคทีเรียที่มีบทบาทสำคัญในการก่อโรค คือ S. mutans (Ban et al., 2010) การป้องกันโรคฟันผุไม่นิยมใช้ยาปฎิชีวนะเพราะยาปฎิชีวนะส่วนใหญ่ใช้รักษาโรคปริทัศต์อักเสบซึ่งมีสาเหตุจากแบคทีเรียแกรมลบ (Roberts and Mullany, 2010) ปัจจุบันจึงมีการศึกษาสารสกัดพืชเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในช่องปากเพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งในการต้านเชื้อ S. mutans และป้องกันโรคฟันผุ เช่น น้ำยาบ้วนปากผสมสารสกัดกระเทียม (Chavan et. al., 2010) และสารสกัดสมุนไพรอื่นๆ (Haffajee et. al., 2008; Srikanth et. al., 2008) มีรายงานการศึกษาพืชหลายชนิดพบว่ามีฤทธิ์ในการต้านเชื้อก่อโรคฟันผุ เช่น สารสกัดเอทานอลจาก Piper cubeba มีฤทธิ์ในการต้านแบคทีเรีย Streptococcus salivarius และ Streptococcus mitis โดยให้ค่า MIC = 90-200 µg/mL (Silva et. al., 2007) สารสกัดเอทานอลจาก Aristolochia cymbifera มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ S. mutans และ Lactobacillus casei ที่ MIC = 0.1-4.0 mg/mL (Alviano et. al., 2008) ในการศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดใบชาเมี่ยงต่อแบคทีเรีย S. mutans ให้ค่า MIC อยู่ระหว่าง 64-256 µg/mL และ MBC อยู่ระหว่าง 125-256 µg/mL (ตารางที่ 2) จากการรายงานก่อนหน้านี้สารสกัดจากชา (Camellia sinensis) สามารถต้านเชื้อ S. mutans และ Lactobacillus spp. ได้โดยให้ค่า MIC และ MBC คือ16-32 µg/mL, 64-128 µg/mL และ 16-64 µg/mL, 64-256 µg/mL ตามลำดับ ขณะที่ (-) Catechin ซึ่งเป็นสารบริสุทธิ์ที่แยกได้จากสารสกัดใบชาเมี่ยงพบว่ามีฤทธิ์ต้านเชื้อ S. mutans และ Lactobacillus spp. โดยให้ค่าMIC อยู่ระหว่าง 0.59-1.8 µg/mL สารสกัดใบชาเมี่ยงจึงมีฤทธิ์ที่ดีในการยับยั้งและฆ่าเชื้อ S. mutans และ Lactobacillus spp.
ปัจจัยสำคัญในการก่อโรคฟันผุและโรคอื่นๆในช่องปากโดยเฉพาะโรคปริทัศต์ คือ การก่อคราบจุลินทรีย์ที่ผิวฟันและบริเวณเหงือกของแบคทีเรียซึ่งเป็นปัจจัยแรกที่นำไปสู่การก่อโรคในช่องปาก (Marsh, 2006) แบคทีเรีย S. mutans เป็นแบคทีเรียชนิดแรกที่เริ่มสร้างคราบจุลินทรีย์เนื่องจากเชื้อสร้างเอนไซม์ glucosyltransferase จากการใช้น้ำตาล sucrose เอนไซม์ชนิดนี้จะไปสังเคราะห์ glucan หรือ extracellular polysaccharide มายึดเกาะที่ผิวฟันทำให้ยากการกำจัดออก (Bowen and Koo, 2011) glucan จึงเป็นตัวกลางให้แบคทีเรียชนิดอื่นมายึดเกาะรวมกันเกิดเป็นคราบจุลินทรีย์ที่มีความหนาและมีจุลินทรีย์ที่หลากหลาย (Colby and Russell, 1997) การยับยั้งการติดหรือยับยั้งการสร้าง biofilm จึงเป็นเหตุผลสำคัญในการยับยั้งการเกิดโรคฟันผุ สารสกัดจากพืชสามารถยับยั้งการเกาะติดและยับยั้งการสร้างเอนไซม์ของเชื้อ S. mutans ยกตัวอย่างเช่น การใช้สารสกัดจากพืช D. crassirhizoma สามารถยับยั้งการเกาะติดและการสร้างเอนไซม์ glucosyltransferase ทำให้สามารถลดการสร้าง glucan ชนิดที่ไม่ละลายน้ำลงได้อย่างมีนัยสำคัญ (Ban et. al., 2012) Xu และคณะ ได้ศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดใบชาต่อการสร้าง biofilm พบว่าที่ความเข้มข้น 15.6 µg/mL สารสกัดสามารถยับยั้งการสร้าง biofilm ของเชื้อ S. mutans ได้อย่างน้อย 90 % (Xu et. al., 2011) ดังนั้นการป้องกันการยึดเกาะของแบคทีเรียพื้นผิวซึ่งเป็นระยะแรกของการพัฒนา biofilm หรือป้องกันการสังเคราะห์ glucan โดยเอนไซม์ glucosyltransferase จะทำให้แบคทีเรียติดกับผิวฟันได้น้อยลง (Palombo, 2011) ส่งผลให้เกิด biofilm หรือคราบจุลินทรีย์น้อยลงด้วย
การสร้างกรดของแบคทีเรีย S. mutans ที่อยู่ภายใน biofilm จะไปสลายผิวฟันและทำให้เกิดฟันผุ การสร้างกรดของเชื้อ S. mutans เกิดจากการเมแทบอไลต์อาหารประเภทน้ำตาลไปเป็นกรดอินทรีย์โดยเฉพาะกรดแลคติก ทำให้ pH ภายใน biofilm ลดต่ำลง โดย pH ที่ทำให้เกิดการสลายผิวฟันได้ คือ pH ที่ต่ำกว่า 5 (Takahashi and Nyvad, 2011) และน้ำลายเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุม pH ในช่องปากและมีอิทธิพลต่อแบคทีเรียในช่องปาก pH ในช่องปากมีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 6.75-7.25 หลังรับประทานอาหาร pH ในช่องปากจะเป็นกรด แต่ในสภาวะที่มีปริทัศต์อักเสบ น้ำลายจะมี pH ประมาณ 7.8 แบคทีเรียส่วนใหญ่ที่ตรวจพบในช่องปากสามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะ pH เป็นกลาง หากสภาวะ pH ในช่องปากเปลี่ยนแปลงไปความสามารถในการดำรงชีวิตอยู่ของแบคทีเรียก็แตกต่างกันไป เช่น แบคทีเรียกลุ่ม mutans streptococci จะเจริญได้ในสภาวะ pH ต่ำกว่า 5 และ Porphyromonas gingivalis เจริญได้ pH เป็นด่าง (Marsh, 2003) จากการศึกษา พบว่ามีพืชบางชนิดที่ pH 7.0 และ 5.5 ไม่ได้มีผลให้การออกฤทธิ์ของสารสกัดเปลี่ยนแปลงไป เช่น สารสกัดจาก garlic, cinnamon, yucca, arise, oregano, capsicum และ Camellia sinensis (Cardozo et. al., 2005) โดยปกติสภาวะในช่องปากมีค่า pH เป็นกลาง จึงไม่มีผลต่อการออกฤทธิ์ของสารสกัดเมื่อนำไปใช้ในช่องปาก แม้ว่าสภาวะน้ำลายในช่องปากจะมีค่า pH เป็นกรดเนื่องจากเกิดฟันผุก็ตาม การเลือกใช้สารสกัดใบชาเมี่ยงในการทดสอบการยับยั้งเชื้อ S. mutans เนื่องจากชา (Camellia sinensis) มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคสามารถใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางและอาหารหลายชนิด เช่น อาหารแปรรูป เครื่องดื่ม ขนมอบและขนมหวาน ดังนั้นการนำสารสกัดใบชาเมี่ยงไปประยุกต์ใช้กับร่างกายมนุษย์จึงมีความปลอดภัยสูงและเป็นที่ยอมรับ
ผลการสำรวจความพึงพอใจการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากจากสารสกัดใบชาเมี่ยง
การสำรวจความพึงพอใจการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากจากสารสกัดใบชาเมี่ยง เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างที่ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ จำนวน 31 ราย โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยผลการสำรวจ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนดังนี้
ส่วนที่ 1 ลักษณะทั่วไป ของผู้ตอบแบบสอบถาม
ส่วนที่ 2 ความพึงพอใจผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก จากสารสกัดจากใบชาเมี่ยง
ส่วนที่ 1 ลักษณะทั่วไป ของผู้ตอบแบบสอบถาม
จากตารางพบว่า ผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากจากสารสกัดใบชาเมี่ยง เป็นเพศชาย จำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 58.06 และเป็นเพศหญิง จำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 41.94 มีสถานภาพโสด จำนวน 24 คน คิดเป็นร้อยละ 77.42 สมรส จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 16.13 และหย่าร้าง/หม้าย/แยกกันอยู่ จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 6.45 มีการศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 23 คน คิดเป็นร้อยละ 74.19 มัธยมศึกษา จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 9.68 ปวช./ปวส./อนุปริญญา จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 9.68 และปริญญาโทหรือสูงกว่า จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 6.45
ส่วนที่ 2 ความพึงพอใจผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากจากสารสกัดจากใบชาเมี่ยง
ด้านผลิตภัณฑ์
จากตารางพบว่า ผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากจากสารสกัดใบชาเมี่ยงมีความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์ด้านรสสัมผัสของผลิตภัณฑ์ อยู่ในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉลี่ย 2.94) โดยมีจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในระดับปานกลาง จำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 61.29 รองลงมาคือ ระดับน้อย จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 19.35 ระดับมาก จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 12.90 ระดับมากที่สุดและน้อยที่สุด จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 3.23
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
• เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์แล้วรู้สึกสดชื่นและสะอาด แต่ระดับความเย็นมากเกินไป และมีรสเปรี้ยว ฝาดตามมา ทำให้ต้องบ้วนน้ำเปล่าอีกครั้ง ทำให้อาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีแผลในช่องปาก
• รสชาติของน้ำยามีความฝาดนิดหนึ่ง
• ทำให้ปากชา ลิ้นชา
• นำยามีความร้อน ซ่ามากเกินไป ทำให้ปากชา ลิ้นชา
• รสชาติคล้ายยาธาตุน้ำขาว
จากตารางพบว่า ผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากจากสารสกัดใบชาเมี่ยงมีความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์ด้านกลิ่นของผลิตภัณฑ์ อยู่ในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉลี่ย 3.00) โดยมีจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในระดับปานกลาง จำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 58.06 รองลงมาคือ ระดับมาก จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 22.58 ระดับน้อย จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 16.14 ระดับมากที่สุด จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 3.23
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
• กลิ่นจากการดมมีความเย็นเกินไป เลยทำให้มีความรู้สึกไม่กล้าใช้ผลิตภัณฑ์ ทำให้เข้าใจว่าเป็นความเย็นจากแอลกอฮอร์ และอาจทำให้แสบช่องปาก
• กลิ่นอ่อนดี
จากตารางพบว่า ผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากจากสารสกัดใบชาเมี่ยงมีความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์ด้านสีของผลิตภัณฑ์ อยู่ในระดับ ปานกลาง (ค่าเฉลี่ย 3.29) โดยมีจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความพึงพอใจในระดับปานกลาง จำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 58.06 รองลงมาคือ ระดับมาก จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 25.81 ระดับน้อย จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 9.68 ระดับมากที่สุด จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 6.45
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
• ควรใช้การแต่งสีจากธรรมชาติ เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ดูน่าใช้มากขึ้น และป้องกันความเข้าใจผิดเมื่อเทใส่แก้วแล้ววางข้างน้ำเปล่า
จากตารางพบว่า ผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากจากสารสกัดใบชาเมี่ยงหลังจากทดลองใช้ มีกลิ่นปากลดลง จำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 59.37 เหงือกอักเสบลดลง จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 12.59 และมีผลไม่แตกต่างจากเดิม จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 28.13
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
• กลิ่นปากหอมสดชื่นขึ้นหลังใช้ทันที
• กลิ่นปากลดลงจากเดิมในระดับหนึ่ง
• ใช้แล้วลิ้นชา ลิ้นไร้ความรู้สึกในการทานอาหาร
• ระหว่างวันจะให้ความรู้สึกเย็น ๆ อยู่ทั่วปาก ประมาณ 1-3 ชม.
ความเสนอแนะเพิ่มเติมเพื่อการปรับปรุงพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
• ลดความชา/ลดสารที่ทำให้ชาลงหน่อย
• ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก เป็นตะกอนเห็นชัด
จากตารางพบว่า ผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากจากสารสกัดใบชาเมี่ยง พอใจในวัสดุของบรรจุภัณฑ์ จำนวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 80.65 และไม่พอใจ จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 19.35
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
• มีขนาดพอดีสามารถพกพาได้สะดวก
• ฝาเล็ก ควรเป็นฝาที่ดวงน้ำยาได้
จากตารางพบว่า ผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากจากสารสกัดใบชาเมี่ยง พอใจในข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์ จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 81.25 และไม่พอใจ จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 18.75
ความคิดเห็นเพิ่มเติม
• ควรแสดงข้อมูลที่เป็นจุดขายให้ชัดเจน เลือกใช้รูปแบบตัวอักษรให้มีความทันสมัย และอ่านง่าย
• ข้อมูลหลังขวดผลิตภัณฑ์มีความชัดเจนและละเอียด
• การให้ข้อมูลควรตรวจทานให้ดีว่า ตัวอักษรทุกตัวมีความถูกต้อง (มีคำผิด)