สำรวจเส้นทางชาเมี่ยง ในพื้นที่อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
ความหนาแน่นของสวนชาเมี่ยง ในพื้นที่อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ทั้งหมด 7 ตำบล 128 หมู่บ้าน โดยการสัมภาษณ์ผู้นำชุมชนและชาวบ้านพบว่า มีการทำสวนชาเมี่ยงกันเกือบทุกหลังคาเรือน เพื่อเป็นรายได้หลัก และรายได้เสริมให้กับครอบครัว มีการปลูกเพิ่มเติมในพื้นที่โดยนำเมล็ดจากต้นมาเพาะ แล้วนำไปปลูกแซมภายในพื้นที่ และยังมีการปลูกพืชเกษตรอื่นควบคู่ไปกับสวนชาเมี่ยง เช่น บ๊วย เชอรี่ กาแฟ อะโวคาโด โดยชาเมี่ยงจะมีรูปแบบการเก็บผลผลิตในรูปแบบของชาสั้น 1 ยอด 2 ใบ และเก็บเป็นชายาว โดยจะมีกรรมวิธีที่แตกต่างกัน โดยกรรมวิธีหลักที่มีความคล้ายคลึงกันคือ การขั้วใบชาเมี่ยง การนวดใบชาเมี่ยง และการตากใบชาเมี่ยงให้แห้ง ชาเมี่ยงสั้นแห้งกิโลกรัมละ 150-300 บาท และชาเมี่ยงยาวแห้งกิโลกรัมละ 50-100 บาท หมู่บ้านในตำบลท่าก๊อ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ที่ทำสวนชาเมี่ยงมีจำนวน 5 หมู่บ้าน ได้แก่บ้านดอยงาม มีทั้งหมด 160 ครัวเรือน ทำสวนชาเมี่ยงทุกครัวเรือน มีพื้นที่ทำสวนชาเมี่ยงประมาณ 400 ไร่ บ้านห้วยน้ำขุ่น มีทั้งหมด 400 ครัวเรือน ทำสวชาเมี่ยง 350 ครัวเรือน มีพื้นที่ทำสวนชาเมี่ยงประมาณ 3,000 ไร่ บ้านลอจอ มีทั้งหมด 90 ครัวเรือน ทำสวนชาเมี่ยง 20 ครัวเรือน มีพื้นที่ทำสวนชาเมี่ยงประมาณ 200 ไร่ บ้านพนาเสรี มีทั้งหมด 122 ครัวเรือน ทำสวนชาเมี่ยงทุกหลังคาเรือน มีพื้นที่ทำสวนชาเมี่ยงประมาณ 130 ไร่ และบ้านใหม่จะคะ มีทั้งหมด 170 ครัวเรือน ทำสวนชาเมี่ยง 100 ครัวเรือน มีพื้นที่สวนชาเมี่ยงทั้งหมด 1,000 ไร่ ปัจจุบันสวนชาเมี่ยงยังเป็นที่นิยมของเกษตรกร เนื่องจากยังมีความต้องการของผู้บริโภคสูง ส่วนด้านการจัดการและการดูแลสวนชาเมี่ยง มีการตัดแต่งกิ่งเพื่อให้ชาเมี่ยงแตกยอดใหม่ ตัดลำต้นให้สูงประมาณ 50 เซนติเมตร เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บผลผลิต และต้นชาเมี่ยงจะมีทรงพุ่มและยอดที่สวยงาม โดยการจัดการนั้นจะขึ้นอยู่กับเจ้าของแปลง และมีการตัดหญ้าก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิต ปีละ 3-4 ครั้ง ไม่มีการรดน้ำ ใส่ปุ๋ย และใช้สารเคมีในการดูแล โดยปล่อยให้ต้นชาเมี่ยงเจริญเติบโตตามธรรมชาติ สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งทั้งปี ตารางที่ 12 ภาพที่ 28
ข้อมูลทั่วไปของเกษตรกรทำสวนชาเมี่ยงที่ศึกษาบ้านกอก ตําบลแม่ลาว อําเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา
ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับลักษณะส่วนบุคคลเศรษฐกิจและสังคมของผู้ให้ข้อมูลประกอบไปด้วย เพศ อายุ จำนวนสมาชิกในครัวเรือน ระดับการศึกษา อาชีพ ภูมิลำเนา และระยะเวลาในการทำพื้นที่เกษตร ซึ่งมีผลการศึกษาดังนี้
เพศ พบว่าผู้ให้ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยเพศหญิงมี 30 คน คิดเป็นร้อยละ 56.6 ส่วนเพศชายมี 23 คน คิดเป็นร้อยละ 43.4
อายุ พบว่าผู้ให้ข้อมูลส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 41-60 ปี จำนวน 33 คน คิดเป็นร้อยละเท่ากับ 62.3 รองลงมาตามลำดับได้แก่ อายุมากกว่า 61 ปี มีจำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละเท่ากับ 24.5 อายุระหว่าง 21-40 ปี จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละเท่ากับ 11.3 และอายุน้อยกว่า 20 ปี จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 1.9
ระดับการศึกษา พบว่าผู้ให้ข้อมูลส่วนใหญ่ มีการศึกษาอยู่ในระดับประถมศึกษาตามภาคบังคับ จำนวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 3.77 รองลงมาตามลำดับ ได้แก่ การศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือ ปวช. จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 22.6 ไม่ได้เรียนหนังสือหรือศึกษาไม่จบ จำนวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 20.8 มีการศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 13.2 การศึกษาอยู่ในระดับ ปริญญาตรี จำนวน 2 คน โดยคิดเป็นร้อยละ 3.8 และการศึกษาอยู่ในระดับอนุปริญญา หรือเทียบเท่า ปวส. จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 1.9
อาชีพหลัก พบว่าผู้ให้ข้อมูลส่วนใหญ่ประกอบอาชีพหลักคือ การทำการเกษตร จำนวน 43 คน คิดเป็นร้อยละ 81.1 รองลงมาตามลำดับ ได้แก่ ประกออบอาชีพรับจ้างทั่วไป จำนวน 10 คน โดยคิดเป็นร้อยละ 18.9
รายได้ของครัวเรือนในปีที่ผ่านมา ผู้ให้ข้อมูลส่วนใหญ่มีรายได้ 10,001-30,000 บาท จำนวน 31 คน คิดเป็นร้อยละ 58.5 รองลงมาตามลำดับ ได้แก่ 30,001-50,000 บาท มีจำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 24.5 รายได้ต่ำกว่า 10,000 บาท จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 13.2 รายได้ รายได้ 50,001-70,000 บาท มีจำนวน 1 คน คิดเป็ยร้อยละ 1.9 และรายได้มากกว่า 90,001 บาทขึ้นไป จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 1.9
ภูมิลำเนา ผู้ให้ข้อมูลส่วนใหญ่จะเกิดในหมู่บ้านนี้ จำนวน 45 คน คิดเป็นร้อยละ 84.9 รองลงมาตามลำดับความสำคัญ ได้แก่ ย้ายเนื่องจากหน้าที่การงาน จำนวน 7 คน คิดเป็นร้อยละ 13.2 และย้ายตามครอบครัว/ย้ายเนื่องจากแต่งงาน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 1.9 (ตารางที่ 13)
ความหลากหลายของชนิดพันธุ์พืชในสวนชาเมี่ยงบ้านกอก ตําบลแม่ลาว อําเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา
บ้านกอก ตําบลแม่ลาว อําเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา
พบชนิดพรรณไม้ทั้งหมด 14 ชนิด 14 สกุล 12 วงศ์ มีความหนาแน่นเท่ากับ 3,728 ต้ฤฤนต่อเฮกแตร์ และมีพื้นที่หน้าตัดเท่ากับ 7.07 ตารางเมตรต่อเฮกแตร์ ตามลำดับ ความหลากหลายของพรรณไม้ตามดัชนีของ Shannon-Weiner เท่ากับ 0.92 ไม้ที่มีค่าความหนาแน่นสัมพัทธ์ 5 ชนิดแรก ได้แก่ ชาเมี่ยง ยางพารา มะขม มะแขว่น และคอแลน มีค่าเท่ากับ 73.37, 16.48, 5.75, 1.37 และ0.57 ไม้ที่มีค่าความเด่นสัมพัทธ์ 5 ชนิดแรก ได้แก่ ชาเมี่ยง คอแลน ยางพารา มะขม และทะโล้ มีค่าเท่ากับ 41.87, 21.15, 15.66, 6.87 และ3.84 ตามลำดับ มีพันธุ์ไม้เด่นที่พิจารณาจาก ค่าดัชนีความสำคัญ 5 ชนิดแรก ได้แก่ ชาเมี่ยง ยางพารา มะขม คอแลน และมะแขว่น มีค่าดัชนีความสำคัญเท่ากับ 144.41, 42.55, 35.54, 27.97 และ16.71 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ พบว่าในพื้นที่บ้านกอก ที่ทำสวนชาเมี่ยงเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงที่จะปลูกยางพารา แทนสวนชาเมี่ยงเนื่องจากยางพารามีราคาที่สูงกว่าชาเมี่ยง และมีตลาดรับซื้อผลผลิตที่แน่นอน ทำให้ระบบนิเวศดั้งเดิมของสวนชาเมี่ยงเปลี่ยนแปลงไป ตารางที่ 14
ความหลากหลายในภาพรวมทั้งพื้นที่ศึกษา
พบชนิดพืชในพื้นที่ศึกษาจำนวน 14 ชนิด จำนวนวงศ์ เท่ากับ 12 วงศ์ ความเท่ากับ 3,728 ต้นต่อเฮกแตร์ และพื้นที่หน้าตัด 7.07 ตารางเมตรต่อเฮกแตร์ ดัชนีความสำคัญของชาเมี่ยง (IVI) เท่ากับ 144.41 ดัชนีความหลากหลายเท่ากับ 0.92 บ้านบ้านกอก ตําบลแม่ลาว อําเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา มีความสูงจากระดับน้ำทะเล (500 เมตร จากระดับน้ำทะเลเฉลี่ยปานกลาง) ตารางที่ 15